ฝ้าบนใบหน้าแบบไหนที่รักษาให้หายได้ขาดจริง เลือกวิธีรักษาแบบไหนดี?
ฝ้าบนใบหน้าแบบไหนที่รักษาให้หายขาดได้จริง เลือกวิธีรักษาแบบไหนดี?
ฝ้าบนใบหน้าแบบไหนที่รักษาให้หายขาดได้จริง เลือกวิธีรักษาแบบไหนดี?
ฝ้า ปัญหาผิวพรรณที่ทำให้คุณขาดความมั่นใจในตัวเอง เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่สร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินปกติ อาจเกิดขึ้นหลายปัจจัย ที่เข้าไปกระตุ้น เช่น แสงแดด อายุที่เพิ่มสูงขึ้น ภาวะที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ฯลฯ ความรุนแรงของการสร้างเม็ดสีเมลานินเกิดขึ้นได้หลายระดับ มีตั้งแต่ผิวหนังเกิดรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเทา แม้ว่าฝ้าจะไม่ใช่ภาวะอันตรายแต่กลับมีผลต่อ
จิตใจอย่างมาก ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฝ้ามากขึ้น ฝ้าสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม ฝ้าแบบไหนต้องรักษาจากภายในก่อน ฝ้าแบบไหนต้องรักษาจากภายนอก มาดูกัน ฝ้าแบบไหนหายขาดได้
ก่อนที่จะไปดูว่าฝ้าแบบไหนสามารถรักษาให้ขายขาดได้เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า
ฝ้ามีกี่ชนิด โดยหลักๆ แบ่งออกเป็น 4 ชนิดได้แก่
1.ฝ้าแดด
ฝ้าแดด คือ ฝ้าที่เกิดขึ้นจากแสงแดดหรือรังสียูวี แสงแดดจะเข้าไปทำลายผิวในระดับที่ลึกลงไปจนเม็ดสีเมลานินทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้าในที่สุด ฝ้าจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ำไปจนถึงสีม่วงอมเทา
2.ฝ้าเลือด
ฝ้าเลือด คือ ฝ้าที่เกิดจากความผิดปกติของเลือดลม รวมถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในร่างกาย ฝ้าเลือดลักษณะเป็นรอยแดงคล้ายเส้นเลือด ถ้าเป็นมาสักระยะลักษณะจะเป็นรอยปื้นๆ มีสีชมพู สีแดงไปจนถึงสีดำ บางครั้งอาจมีเลือดซึมออกมาตามผิวหนังด้วย
3.ฝ้าตื้น
ฝ้าแบบตื้น ฝ้าที่เกิดขึ้นในระดับผิวหนังกำพร้าหรือผิวหนังชั้นนอก ลักษณะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด ฝ้าตื้นอาจเกิดขึ้นได้ง่ายแต่สามารถรักษาให้จางลงได้เร็ว สามารถรักษาโดยการใช้ยาทาหรือครีมกันแดด
4.ฝ้าลึก
ฝ้าแบบลึก เกิดขึ้นในผิวหนังชั้นลึกกว่าผิวหนังกำพร้า หรือเกิดความผิดปกขึ้นในผิวหนังชั้นกำพร้า ลักษณะเป็นฝ้าสีม่วง อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัดเจน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดหรือยากที่จะจางลงได้
มาถึงคำถามที่ทุกคนสงสัย ฝ้าแบบไหนสามารถรักษาให้หายขาดได้ ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาฝ้าให้หายขาดได้ และฝ้าสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด ฮอร์โมนหรือยาบางชนิด อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่มีวิธีไหนที่สามารถรักษาฝ้าให้หายขาดแต่สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้จนใกล้เคียงกับสีผิวจริง สำหรับการรักษาฝ้าที่แพทย์ผิวหนังใช้คือ
การควบคุมเซลล์เม็ดสีให้ทำงานน้อยลงด้วยวิธีการต่างๆ หรืออาจต้องรักษาหลากหลายวิธีเพื่อให้การรักษาฝ้าได้ผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้การรักษาฝ้าขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง ชนิดของฝ้า ฝ้าลึกหรือฝ้าตื้น
ฝ้าแบบไหนต้องรักษาจากภายในก่อน
ฝ้าที่ควรรักษาจากภายในก่อน คือ ฝ้าเลือด อย่างที่บอกว่าฝ้าเลือดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากความผิดปกติภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเลือดลม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงการทานยาบางประเภท เช่น ยาคุม ยาปรับฮอร์โมน ฯลฯ การบำรุงจากภายในทำได้หลายวิธี เช่น
- รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ จำพวกผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะเขือเทศ ผักใบเขียวแอปเปิ้ลเขียว มะขามป้อม แตงกวา พืชตระกูลถั่ว ฯลฯ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 80-10 แก้ว น้ำเปล่าคือยาวิเศษ ช่วยขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย สร้างสมดุลให้ร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และช่วยรักษาฝ้าเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ รวมถึงเซลล์ผิวหนัง
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ สร้างเกราะป้องกันโรคและเพื่อกระตุ้นให้เลือดลมไหวเวียนดีขึ้น
- การรับประทานยาสมุนไพรบำรุงโลหิตสตรี (Women Health) สามารถช่วยได้ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
ฝ้าแบบไหนต้องรักษาจากภายนอก
ฝ้าที่ควรรักษาจากภายนอกได้แต่ฝ้าแดด ฝ้าตื้น และฝ้าลึก แม้จะไม่สามารักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถทำให้ฝ้าเหล่านี้จางลงได้ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ สำหรับวิธีการรักษา โดยหลักๆ มีดังต่อไปนี้
- หมั่นทางครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกไปเผชิญแสงแดด หรือออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ SPF 30+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันมิให้ฝ้า มาเยือน
- รักษาฝ้าด้วยผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง ที่ทำจากสารสกัดธรรมชาติ ให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าวิธีอื่น ปลอดภัย ได้มาตรฐาน แม้จะได้ผลช้าแต่ก็ได้ลัพธิ์ที่ดี แต่ได้ผลดีกับฝ้าตื้นมากกว่าฝ้าลึก
- รักษาด้วยการทายา อย่างไรก็ตาม ยาบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียงได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อความปลอดภัย สำหรับฝ้าตื้น หากทายารักษาฝ้าสามารถจางลงไปได้ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ถ้าใช้ต่อเนื่องประมาณ 6 เดือนจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ทีดี่ขึ้น แต่ถ้าเป็นฝ้าลึกจะค่อนข้างยากต่อการรักษา อาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ร่วมด้วย สำหรับยาทาที่นิยมใช้ไก้แก่ ยาทากลุ่มไฮโดรควิโนน ยาทาผสมไฮโดรควิโนน กรมวิตามินเอ และสารสเตีรอยด์ ยาทากลุ่มอะเซเลอิก เป็นต้น ซึ่งมักเห็นผลเร็วภายใน7-14วัน แต่หลังจากนั้นหลายคนพบว่าเป็นฝ้าลึก หนา รักษาไม่หายแล้ว
- การลอกผิวด้วยสารเคมีเป็นการใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นมากกว่าครีม ซึ่งต้องงอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
- การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ วิธีที่ได้รับความนิยม รักษาได้ตรงจุดแต่เป็นการรักษาที่ปลายเหตุไม่ใช่ต้นเหตุเป็นเพียงแค่การทำลายเม็ดสี ไม่ได้ช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานิน
สรุปคือ ฝ้า ที่เกิดจากธรรมชาติเช่น แสงแดด รังสี UVA UVB สามารถรักษาได้ด้วยสารสกัดธรรมชาติ แต่บางกรณี เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน หรือผู้ที่รับประทานยาคุม หลังจากคลอดบุตรหรือหยุดการทานยาคุม ฝ้าอาจจางหายได้เอง หากเป็นฝ้าชนิดไม่ปรกติ เช่น การลอกผิว การเลเซอร์ หรือเคมีที่กล่าวมาแล้วนั้นจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เลย ดังนั้นการเลือกวิธีรักษาฝ้าควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ทุกคนถึงจะปลอดภัยระยะยาว
ทั้งหมดนี้คือสาระน่ารู้เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับฝ้า รวมถึงขอแนะนำต่างๆ ที่เราเอามาฝาก หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคน เพื่อให้คุณได้ศึกษาทำความเข้าใจ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรักษาฝ้ามากขึ้น